ราคาทอง ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ร้านทองใช้กำหนดราคารับซื้อทองเก่า พฤษภาคม 22, 2018 – Posted in: บทความ – Tags: ทอง, ทอง รูปพรรณ, ทองคำ, ทองคำแท่ง, ทองรูปพรรณ, ทองเปอร์เซ็นต์ต่ำ, ราคาทอง, ราคาทองวันนี้
ราคาทอง เป็นปัจจัยหลักในการรับซื้อทองเก่าของร้านทอง แต่ท่านทราบหรือไม่? ว่ายังมีอีกหลายปัจจัยเลยล่ะที่มีผลต่อราคารับซื้อทองเก่าของท่าน
ราคาทอง จัดเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลที่สุดในการบอกว่าราคาขายออกและราคารับซื้อทองเก่าในวันนั้นๆจะเป็นเท่าไหร่ โดยร้านทองทุกร้านถูกควบคุมให้ใช้ราคาขายออกและราคารับซื้อทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำกันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่คนทั่วไปยังไม่ทราบนั่นคือ ราคาทองไม่ใช่สิ่งเดียวที่กำหนดราคาดังกล่าว แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ร้านทองใช้พิจารณาประกอบการรับซื้อทองเก่าของท่าน จะมีอะไรกันบ้างไปชมกันเลยค่ะ
5 ปัจจัยกำหนดราคารับซื้อทองเก่า
นอกจากราคาทองในแต่ละวันที่เป็นตัวกำหนดราคารับซื้อทองเก่าของท่านแล้ว ยังมีอีก 4 ปัจจัย คือ ค่าน้ำประสานทองหรือค่าหลอม น้ำหนักทองเก่า ยี่ห้อร้านของทองชิ้นนั้นๆ และ เปอร์เซ็นต์ทอง
1. ราคาทอง (ราคารับซื้อ)
แน่นอนค่ะว่าราคาทองเป็นสิ่งแรกที่ต้องพูดถึง และในกรณีที่ท่านนำทองเก่าไปขาย ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ ราคารับซื้อก็จะเป็นตัวหลักในการกำหนดราคารับซื้อ(จริงๆ)ค่ะ โดยราคารับซื้อนี้จะมีค่าน้อยกว่าราคาขายออกทองชิ้นใหม่อยู่บาทละ 100 บาทเสมอ ดังที่เราเคยนำเสนอไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้
2. ค่าน้ำประสานทองหรือค่าหลอม
เวลาที่ช่างทองทำการขึ้นรูปทองรูปพรรณ เค้าจะต้องมีการใช้น้ำประสานทองในการเชื่อมทองตามข้อต่อต่างๆ ซึ่งน้ำประสานทองนี้เองจะมีเปอร์เซ็นต์ทองต่ำกว่าเนื้อทองคำปกติ เพราะเราต้องการให้จุดเชื่อมต่อต่างๆมีความแข็งแรง ซึ่งโดยธรรมชาติของทองบริสุทธิ์แล้วเป็นโลหะที่นิ่มมาก จึงต้องใช้ธาตุผสมอื่นๆที่มีสมบัติด้านความแข็งแรงเข้ามาช่วยมากขึ้น ทำให้น้ำประสานทองมีเปอร์เซ็นต์ทองต่ำลงนั่นเองค่ะ
หลังจากที่มีการรับซื้อทองเก่า ทางร้านทองจะต้องทำการเผาทองทั้งเส้นเพื่อพิสูจน์ทองว่าเป็นของแท้หรือไม่ เป็นเหตุให้น้ำหนักทองลดลงจากบริเวณที่มีน้ำประสานทอง เนื่องจากธาตุผสมที่ไม่ใช่ทองจะถูกไฟไล่ออกไปนั่นเองค่ะ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าทองรูปพรรณลายที่ยิ่งซับซ้อนใช้น้ำประสานทองมาก น้ำหนักก็จะลดลงมากเช่นกันค่ะ โดยทองน้ำหนักยิ่งมาก ก็จะยิ่งเสียค่าน้ำประสานทองมากขึ้นไปด้วยค่ะ และโดยส่วนใหญ่แล้วค่าน้ำประสานทองนี้ก็จะขึ้นอยู่ว่าร้านทองแต่ละร้านจะคิดเท่าไหร่ค่ะ
นอกจากนี้ การใช้งานทองรูปพรรณโดยทั่วไปแล้ว ย่อมที่จะมีคราบขี้ไคล คราบสบู่ ติดมากับเนื้อทอง รวมถึงการที่เนื้อทองคำมีน้ำหนักลดลงเนื่องจากการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขูด เสียดสี สึกหรอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองที่ร้านทองนำมาพิจารณาร่วมกับน้ำหนักทองที่ชั่งได้จากทางลูกค้า เพราะในกระบวนการหลอมทองเพื่อขึ้นรูปทองรูปพรรณใหม่ สิ่งเหล่านี้ไม่นับเป็นน้ำหนักทองที่มีมูลค่า ในทางกลับกัน กระบวนการหลอมขึ้นรูปจะทำได้ยากมากขึ้นหากมีสิ่งเจือปนเหล่านี้ในปริมาณมาก เหตุนี้เองทำให้ “ค่าหลอม” หรือ “ค่าน้ำประสานทอง” ถูกนับเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดราคารับซื้อทองรูปพรรณ
3. น้ำหนักทองเก่า
ท่านอาจเคยได้ยินคำนี้มาบ้างว่าน้ำหนักทองลูกค้าไม่เต็มนะคะ ราคารับซื้อจะได้ไม่เต็ม นั่นเป็นเพราะว่าตามปกติแล้วร้านทองจะซื้อและขายทองตามน้ำหนัก ไม่ใช่แค่ตามคำง่ายๆว่า 1 สลึง, 2 สลึง, 1 บาท ที่เราได้ยินกันมานะคะ แต่ลึกไปถึงว่า 1 สลึง น้ำหนักต้องเต็ม 3.79 – 3.80 กรัม ตามมาตรฐานของสมาคมค้าทองคำกันเลยทีเดียวค่ะ เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงแนะนำให้ท่านซื้อทองในร้านที่ออกใบรับประกันที่แจ้งน้ำหนักตามที่ชั่งได้ให้แก่ลูกค้าตอนที่ท่านซื้อทองชิ้นใหม่ค่ะ เพราะท่านจะได้ทราบว่าตอนที่ท่านซื้อจากร้านนั้นน้ำหนักทองท่านเต็มดีหรือไม่ตามมูลค่าทองรวมค่ากำเหน็จที่ท่านเสียไป (กรณีน้ำหนักทองไม่เต็มมาตรฐาน ท่านควรจะปฏิเสธทองชิ้นนั้นไป โดยอาจจะขอเลือกทองชิ้นใหม่ หรือขอลดราคาลงตามน้ำหนักทองจริงก็ได้ค่ะ แต่ข้อหลังนั้นคงจะทำจริงได้ยาก เพราะต้องใช้การคำนวณที่ซับซ้อนขึ้น ท่านอาจจะยังเสียเปรียบร้านทองอยู่ดีถ้าคิดคำนวณตามไม่ทัน) และเมื่อทราบน้ำหนักทองตอนซื้อมา ท่านก็จะทราบว่าในวันที่ท่านต้องการจะขายคืนร้านทองน้ำหนักทองของท่านมีโอกาสที่จะลดลงอีก เนื่องจากการใช้งาน เช่น การขูด เสียดสี สึกหรอ การขาดและมีชิ้นส่วนที่หลุดหายไป เป็นต้น เหตุนี้เองที่ทำให้ร้านทองหักค่ารับซื้อทองเก่าของท่านให้ต่ำลงไปอีกได้ค่ะ ทางที่ดีท่านควรทำการระมัดระวังในการสวมใส่ และทำการดูแลรักษาทองซึ่งเป็นโลหะมีค่าที่บอบบางของท่านให้ดี เพื่อไม่ให้น้ำหนักทองหายนะคะ
หมายเหตุ : น้ำหนักทองรูปพรรณ 96.5% ตามมาตรฐานสมาคมค้าทองคำ
ทอง 0.6 กรัม = 0.6 กรัม,
ทอง 1 กรัม = 1.00 กรัม,
ทองครึ่งสลึง = 1.90 กรัม,
ทอง 1 สลึง = 3.79 – 3.80 กรัม,
ทอง 2 สลึง = 7.58 – 7.60 กรัม,
ทอง 3 สลึง = 11.37 – 11.40 กรัม,
ทอง 1 บาท = 15.16 – 15.20 กรัม,
ทอง 6 สลึง = 22.74 – 22.80 กรัม,
ทอง 2 บาท = 30.32 – 30.40 กรัม, …
4. ยี่ห้อร้านของทองชิ้นนั้นๆ
ยี่ห้อร้านของทองชิ้นนั้นๆ ในกรณีนี้หมายถึงว่าทองชิ้นที่ท่านต้องการขายนั้นเป็นทองที่ซื้อจากร้านเดิมหรือไม่ โดยหลายๆร้านก็จะดูจากปัจจัยข้อนี้ด้วย เพราะหากซื้อจากร้านของเขาไป ทางร้านก็จะมีความมั่นใจว่าทองนั้นเป็นทองแท้เปอร์เซ็นต์และน้ำหนักเต็ม โดยมีใบรับประกันที่ออกให้โดยทางร้านเป็นหลักฐานยืนยัน ก็จะให้ราคารับซื้อที่สูงขึ้นได้อีกเมื่อเทียบกับคนที่ซื้อมาจากร้านอื่น
5. เปอร์เซ็นต์ทอง
เปอร์เซ็นต์ก็เป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งในการรับซื้อทองเก่าค่ะ เนื่องจากทองมีหลายเกรด แต่ละเกรดมีเปอร์เซ็นต์ทองไม่เท่ากัน โดยทองรูปพรรณตามมาตรฐานไทยกำหนดโดยสมาคมค้าทองคำจะมีเปอร์เซ็นต์ทอง 96.5% ส่วนทองคำแท่งจะมีทั้ง 96.5% และ 99.99% นอกจากนี้ยังมีทองเกรดอื่นๆเช่น กรอบพระ มีแบบทอง 90% และ 80%, ทองรูปพรรณอื่นๆ เช่น งานสั่งทำ งานพิเศษ อาจมีเปอร์เซ็็นต์ทองที่ 90%, 80%, 75% หรืออาจน้อยกว่า 75% ก็เป็นไปได้ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ร้านทองรับซื้อทองเก่าในราคาแตกต่างกันตามเกรด ตามเปอร์เซ็นต์ของ แม้น้ำหนักทองจะเท่ากันก็ตาม
นอกจากนี้ทองเกรดต่ำกว่ามาตรฐาน 96.5% หรือชื่อที่ถูกเรียกในวงการค้าขายทองคือ “ทองเขียว” นี้ เป็นทองที่ต้องอาศัยการพิสูจน์ค่อนข้างซับซ้อนกว่าทองตามมาตรฐาน เช่น การเผาไฟ จุ่มกรด หรือแม้กระทั่งการใช้เครื่องวัดความนำไฟฟ้า ทำให้ร้านทองบางร้านอาจไม่รับซื้อ หรือรับซื้อทองเขียวในราคาต่ำ(ต่ำกว่าเปอร์เซ็นต์จริงของทองเกรดนั้นๆ) ทั้งนี้ก็เพราะต้องหักค่าใช้จ่ายในส่วนขั้นตอนการพิสูน์นี้ออก รวมไปถึงความเสี่ยงในการประเมินแยกทองเขียวและทองปลอมหรือทองชุบผิดอีกด้วย ซึ่งอย่างหลังนี้เป็นสิ่งที่ร้านทองกลัวมากรองลงมาจากโจรปล้นร้านเลยทีเดียวค่ะ
ในทางกลับกัน ท่านอาจซื้อทองเขียว หรือทองชุบ (ทองไมครอน) มาจากร้านทองโดยท่านยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับทองชิ้นนั้นๆเป็นอย่างดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะทองเหล่านี้มักจะมีลวดลายสวยงามหรือพิเศษกว่าทองตามมาตรฐาน และราคาขายที่ค่อนข้างจะแพงเท่าๆทองคำแท้ตามมาตรฐาน ทำให้ท่านเข้าใจผิดว่านั่นคือทองแท้ 96.5% ซื้อขายได้ ขายฝาก(จำนำ)ได้โดยจะได้ราคาตามมาตรฐานทองแท้ มาโป๊ะแตกเอาก็ต่อเมื่อท่านเอาทองชิ้นนั้นมาขายให้ร้านทอง และได้รับการปฏิเสธ ว่าเป็นทองเกรดต่ำหรือทองชุบทองหุ้มอะไรก็ตาม มิหนำซ้ำประวัติและความน่าเชื่อถือของท่านก็จะเสียไปนิดหน่อยในสายตาร้านทองที่ท่านเอาทองชิ้นนั้นไปเสนอขาย ข้อนี้จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทางเราเน้นย้ำว่าเหตุใดท่านจึงควรที่จะเลือกซื้อทองจากร้านที่มีใบรับประกันทองคำแท้ทุกชิ้นนั่นเองค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะสาระที่นำมาฝากท่านผู้อ่านในวันนี้ เรื่องของปัจจัยกำหนดราคารับซื้อทองเก่า หวังว่าคงจะเป็นแนวทางในการพิจารณาตัดสินใจขายทองเก่าของท่านได้ไม่มากก็น้อยนะคะ อย่างไรก็ตามเราก็ขอแนะนำว่าหากท่านสงสัยอะไรเวลาเข้าร้านทอง ท่านสามารถสอบถามพนักงานได้เลยค่ะว่าเหตุใดถึงขายราคาเท่านี้ หรือรับซื้อราคาเท่านี้ เพราะทุกคำถามทางร้านทองมีเหตุผลและพร้อมที่จะตอบให้ท่านทราบเสมอค่ะ หากมีอะไรที่ต่างฝ่ายต่างเข้าใจผิดกันจะได้ทราบและร่วมกันแก้ไขค่ะ
ท่านสามารถเลือกชมสินค้า และเช็คราคาทองแบบวันต่อวัน ได้ที่อัลบั้มสินค้าของเราได้เลยค่ะ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
มาตรฐานทองคำ ในประเทศไทย และประเทศต่างๆ
ราคาทองวันนี้ ก็ขึ้นอยู่นะ น้ำหนักทองก็เต็มดี ทำไมขายคืนร้านไม่ได้ราคาเท่าตอนซื้อ?
ทองและการดูแลรักษา ทอง ทองรูปพรรณ ให้ดูใหม่ไม่เก่า
ทองน้ำหนักหาย จริงหรอ? ร้านทองบอกแบบนี้ทีไรปวดใจทุกที
*ลิขสิทธิ์ บทความโดย บริษัท ห้างทองพรทวี จำกัด ไม่อนุญาตให้ทำซ้ำ คัดลอก เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขส่วนหนึ่งส่วนใดของเนื้อหา
3 Comments
ทองขาด ทำอย่างไรดี ทองขาดขายได้ไหม แล้วจะโดนหักค่าอะไรไหม? - ห้างทองพรทวี พฤษภาคม 22, 2018 - 10:29
[…] ราคาทอง ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ร้านทองใ… […]
ทองเปอร์เซ็นต์ต่ำ คืออะไร ซื้อมาก็แพง แต่พอจะขายร้านทองชอบอ้างแบบนี้ - ห้างทองพรทวี พฤษภาคม 22, 2018 - 13:18
[…] ราคาทอง ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ร้านทองใ… […]
ทองน้ำหนักหาย จริงหรอ? ร้านทองบอกแบบนี้ทีไรปวดใจทุกที - ห้างทองพรทวี พฤษภาคม 22, 2018 - 14:56
[…] ราคาทอง ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ร้านทองใ… […]